简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคาทองคำร่วงแรงกว่า 5.5% ในวันเดียว สะท้อนภาวะการปรับฐานครั้งใหญ่และทำให้นักลงทุนตั้งคำถามถึงฟองสบู่ทองคำ ทองคำแม้ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในแง่การลงทุนกลับมีความเสี่ยงสูง ทั้งจากความผันผวนและระยะเวลาฟื้นตัวที่ยาวนานกว่า หุ้นหรือคริปโต ดังนั้นผู้ลงทุนควรเข้าใจวัฏจักรตลาด กระจายพอร์ต และไม่เทน้ำหนักทั้งหมดในทองคำ

ช่วงนี้ใครที่กำลังถือทองคำหรือกำลังคิดจะเข้าซื้อ อาจต้องตั้งสติให้มั่น เพราะ ราคาทองคำกำลังเจอกับการปรับฐานครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ หลังจากราคาร่วงลงในวันเดียวกว่า 5.5% — เหตุการณ์แบบนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
นักลงทุนทั่วโลกเริ่มตั้งคำถามว่า “นี่คือสัญญาณฟองสบู่ทองคำกำลังจะแตกแล้วหรือเปล่า?”
ทองคำถูกยกให้เป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” (Safe Haven) มาช้านาน ไม่ว่าจะในภาวะสงคราม วิกฤตเศรษฐกิจ หรือช่วงเงินเฟ้อพุ่ง แต่ในความเป็นจริง ความปลอดภัยของทองคำ ไม่เท่ากับความเสี่ยงต่ำในการลงทุน
ทองคำอาจปลอดภัยในฐานะวัตถุที่จับต้องได้ ซื้อมาเก็บไว้ ก็ยังอยู่กับคุณแน่นอน ต่างจากหุ้นหรือคริปโตที่มีความซับซ้อนทางระบบสัญญาซื้อขาย แต่ในมุมของ “การลงทุน” ทองคำกลับมีความเสี่ยงซ่อนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะหากซื้อในจุดสูงสุดของรอบตลาด
ข้อมูลย้อนหลังในตลาดทองคำโลก (XAU/USD) ชี้ชัดว่า ทองคำเองก็เคยมี “ยุคมืด” ที่นักลงทุนต้องใช้เวลารอนานเกือบครึ่งชีวิตเพื่อกลับมาที่จุดเดิม
เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ทองคำกลับใช้เวลาฟื้นตัวยาวนานกว่า:
ดังนั้น หากฟองสบู่ทองคำแตกจริง ผู้ถือทองในจุดสูงอาจต้องเผชิญ “ภาวะเงินจม” ยาวนานหลายปี และเมื่อรวมผลกระทบจากเงินเฟ้อเข้าไป ราคาที่ขายออกในอนาคตอาจแทบไม่ต่างจากราคาทุนเลยด้วยซ้ำ
หนึ่งในความเข้าใจผิดของนักลงทุนคือการคิดว่า “ทองคำผันผวนน้อย”
แต่ข้อมูลจริงกลับตรงกันข้าม — ค่าความผันผวน (Standard Deviation) ของทองคำอยู่ที่ 19.60% สูงกว่าหุ้นสหรัฐฯ ที่อยู่เพียง 15.31%
และเมื่อเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนระยะยาวแบบทบต้นต่อปี (Compound Annual Growth Rate):
เมื่อนำค่าความเสี่ยงมาคำนวณเทียบกับผลตอบแทน (Sharpe Ratio) ก็ชัดเจนว่า ทองคำให้ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ทองคำยังคงมีคุณค่าในฐานะ สินทรัพย์หลบภัยของโลก — เพราะไม่ว่าจะยุคใด ทองคำก็ยังถูกใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แต่ในโลกของการลงทุน ความ “ปลอดภัย” ต้องมาพร้อมกับ “เวลา” และ “ความเข้าใจในวัฏจักรตลาด”
ใครที่เชื่อว่า “ซื้อทองยังไงก็ไม่ขาดทุน” อาจต้องคิดใหม่ เพราะหากเข้าซื้อในจุดผิดเวลา คุณอาจต้องรอถึง 20 ปีกว่าจะกลับมาที่ทุนเดิม และในโลกการเงินที่ทุกอย่างเปลี่ยนเร็ว การถือทองอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบ
ทองคำไม่ได้แย่ แต่ต้องเข้าใจว่า มันคือสินทรัพย์ที่เสี่ยงพอๆ กับหุ้นหรือคริปโต หากเข้าผิดจังหวะ
ทองคำอาจเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ในเชิงวัตถุ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทองคำก็ยังคงมีมูลค่าในตัวเองเสมอ แต่ในแง่ของการลงทุนแล้ว ทองคำไม่ใช่สินทรัพย์ที่ปลอดภัยตลอดเวลาอย่างที่หลายคนเข้าใจ เนื่องจากมีความผันผวนสูง และในบางช่วงอาจใช้เวลานานหลายปี กว่าราคาจะฟื้นกลับมาจากขาลง
ดังนั้น ทองคำจึงเหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่มีพอร์ตการลงทุนหลากหลาย ไม่ควรเทน้ำหนักทั้งหมดไว้ที่ทองคำเพียงอย่างเดียว เพราะแม้จะเป็นสินทรัพย์ที่มีประวัติยาวนาน แต่ก็หนีไม่พ้นวัฏจักรตลาดเช่นเดียวกับสินทรัพย์อื่น ๆ
ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรทำความเข้าใจปัจจัยมหภาคอย่างรอบด้าน ทั้งเรื่องเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และค่าเงินดอลลาร์ เพราะทั้งหมดนี้คือแรงขับเคลื่อนสำคัญที่กำหนดทิศทางของ “ราคาทองคำ” ในทุกยุคทุกสมัย
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ

บทวิเคราะห์ทองคำ

เมื่อคืนวันที่ 21–22 ตุลาคม 2025 ราคาทองคำร่วงแรงที่สุดในรอบหลายปี โดยได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ ดอกเบี้ยเฟดยังสูง ดอลลาร์แข็งค่า ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น แรงขายทางเทคนิค และความเชื่อมั่นนักลงทุนที่หันไปถือสินทรัพย์เสี่ยงแทน การปรับตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างนโยบายการเงิน สภาพเศรษฐกิจโลก และความผันผวนของตลาดทองคำ แนะนำให้นักลงทุนมองเป็นโอกาสเรียนรู้และประเมินความเสี่ยง แทนการมองเป็นวิกฤต.

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม โดยสัญญาทองคำ COMEX เดือนธันวาคมพุ่ง 3.47% ปิดที่ 4,359.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมปลายเดือนนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการเมืองเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ คาดว่าหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ราคาทองคำอาจแตะ 4,500–5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอนาคต ขณะที่ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และการเจรจาการค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ ซึ่งยังเป็นตัวแปรหลักต่อทิศทางทองคำในระยะต่อไป.

ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่แตะ 3,976.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนักลงทุนทั่วโลกหันมาถือสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเดือนตุลาคม ปัจจัยเหล่านี้หนุนให้แนวโน้มราคาทองคำยังคงแข็งแกร่ง และอาจแตะระดับ 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้.
JustMarkets
FXCM
Vantage
TMGM
FBS
InteractiveBrokers
JustMarkets
FXCM
Vantage
TMGM
FBS
InteractiveBrokers
JustMarkets
FXCM
Vantage
TMGM
FBS
InteractiveBrokers
JustMarkets
FXCM
Vantage
TMGM
FBS
InteractiveBrokers