简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
เพราะอะไร? ทำไมคริปโตถึงไม่ตาย แม้ตลาดพังซ้ำแล้วซ้ำเล่า
บทคัดย่อ:บทความนี้อธิบาย “ทฤษฎีแมลงสาบ” ในโลกคริปโต โดยเปรียบคริปโตเคอเรนซีกับแมลงสาบที่อยู่รอดได้แม้ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ด้วยคุณสมบัติอย่างการกระจายศูนย์ ต้านการเซ็นเซอร์ และการปรับตัวอย่างรวดเร็ว บทสรุปคือ คริปโตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แค่อยู่รอดและพัฒนาได้ก็เพียงพอ.

ในโลกการเงินที่ผันผวน ไม่มีสินทรัพย์ใดจะถูกทดสอบความทนทานบ่อยเท่ากับ คริปโตเคอเรนซี — แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ มันไม่เคยหายไปจริง ๆ แม้จะโดนโจมตี ข่าวร้าย หรือวิกฤติทางเศรษฐกิจซัดเข้าใส่ราวกับพายุ ทฤษฎีหนึ่งที่อธิบายปรากฏการณ์นี้ได้ชัดเจนก็คือ “ทฤษฎีแมลงสาบ” (Cockroach Theory)
คริปโต = แมลงสาบ? ไม่ใช่แค่เปรียบเปรยเล่น ๆ
แนวคิดนี้ตั้งอยู่บนความจริงที่ว่า แมลงสาบเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอดได้แม้ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ตั้งแต่นิวเคลียร์ยันยุคไดโนเสาร์ และในโลกคริปโต ก็มีคุณสมบัติบางอย่างที่สะท้อน DNA แบบเดียวกัน นั่นคือ ทน อึด และฟื้นตัวไว
เมื่อเกิดเหตุการณ์ลบ — เช่น การแฮ็ก, การปรับกฎหมาย, ฟองสบู่แตก หรือกระแสต่อต้าน — หลายคนอาจคาดว่า “จบแล้วคริปโต” แต่กลับกลายเป็นว่า ตลาดกลับมาใหม่เสมอ และยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
อะไรทำให้คริปโต “ไม่ตาย”?
ทฤษฎีแมลงสาบในโลกคริปโตพึ่งพาปัจจัยหลัก 4 ประการ:
- กระจายศูนย์ (Decentralization)
ไม่มีจุดล้มเหลวเดียว ระบบบล็อกเชนกระจายข้อมูลไปยังหลายโหนด ต่อให้บางจุดพัง ระบบยังรันต่อได้
- ต้านทานการเซ็นเซอร์ (Censorship Resistance)
รัฐบาลหรือหน่วยงานไม่สามารถควบคุมธุรกรรมหรือปิดระบบได้ง่ายเหมือนกับสถาบันการเงินแบบเดิม
- เปิดตลอด 24 ชั่วโมง (24/7 Trading)
ตลาดคริปโตไม่หลับ ไม่หยุด ไม่ต้องรอเวลาทำการของตลาดหุ้นแบบเดิม
- ยังอยู่ในช่วงพัฒนา (Early in Evolution)
คริปโตยังไม่โตเต็มที่ ยังมีโอกาสพัฒนาอีกมาก — ทั้งในด้านเทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน และจำนวนผู้ใช้งาน
อยู่รอดเพราะปรับตัวได้ ไม่ใช่เพราะโชคดี
ทุกครั้งที่ตลาดคริปโตโดนถล่มด้วยข่าวร้าย มักจะมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นเพื่อรับมือ — เช่น ระบบบัญชีแยกประเภทเพื่อความโปร่งใส, การพิสูจน์ตัวตนแบบ Zero Knowledge หรือการพัฒนา Layer 2 ที่ทำให้ระบบเร็วและถูกขึ้น
สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า คริปโตไม่ใช่แค่ทน แต่ปรับตัวเก่งเหมือนแมลงสาบ ที่วิวัฒนาการตามสภาพแวดล้อมได้อย่างน่าทึ่ง
แม้คนจะคาดหวังให้ล้ม… แต่มันก็ยังอยู่
คริปโตถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า — ทั้งจากภาครัฐ, นักลงทุนสายอนุรักษ์นิยม, หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไปที่ยังไม่เข้าใจระบบ แต่มันกลับไม่หายไปไหน แถมยังคงดึงดูดผู้ใช้งานจากทั่วโลกด้วยข้อได้เปรียบที่เงินแบบเดิมไม่มี นั่นคือ การโอนมูลค่าโดยไม่ต้องพึ่งตัวกลาง
แม้จะเจอปัญหา แต่จุดแข็งของคริปโตคือ มันไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ มันแค่ต้อง “อยู่รอด” และวิวัฒนาการต่อไป
สรุป: คริปโต = แมลงสาบทางการเงิน?
คำตอบคือ “ใช่” ในมุมของทฤษฎีนี้ เพราะมันแสดงให้เห็นว่า เงินดิจิทัลมีศักยภาพจะยืนหยัดได้ยาวนานยิ่งกว่าเงินตราแบบเดิม และหากแมลงสาบยังอยู่รอดได้เป็นล้านปี คริปโตที่วิวัฒนาการไวกว่า ก็อาจอยู่ได้นานกว่าที่หลายคนคาดไว้มาก
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

นักลงทุนคริปโตทุบขาย 148,000 เหรียญ วงแตกทั่วตลาด เสี่ยงหลุดแนวรับ 90,000 ดอลลาร์!
ตลาด Bitcoin เผชิญแรงขายรุนแรงจนราคาลงเหลือ 92,000 ดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนหน้าใหม่เป็นกลุ่มขายหลัก โดยมักขายด้วยอารมณ์มากกว่ากลยุทธ์ ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นของการวางแผนและความอดทน การเทขายครั้งนี้อาจช่วยปรับฐานเชิงโครงสร้าง ทำให้เหรียญตกไปอยู่ในมือของนักลงทุนที่มีความอดทนสูงกว่า แนวรับสำคัญอยู่ราว 89,000–93,000 ดอลลาร์ การอยู่รอดในตลาดขึ้นอยู่กับการมองภาพระยะยาวและใช้ข้อมูล ไม่ใช่รีบตัดสินใจตามอารมณ์ชั่วคราว.

ใครคือ “อัจฉริยะวัย 19” ที่เขียนโค้ดเปลี่ยนโลกการเงิน? เรื่องราวของ Vitalik Buterin
เรื่องราวของ Vitalik Buterin เริ่มต้นจากเด็กเนิร์ดผู้สนใจคณิตศาสตร์และการเขียนโปรแกรม ก่อนจะค้นพบ Bitcoin ในวัย 17 ปีและเข้าสู่โลกบล็อกเชนอย่างจริงจัง เขาพัฒนาจากนักเขียนบทความสู่ผู้เสนอแนวคิด Ethereum และ Smart Contract ที่ปฏิวัติโลกคริปโต เปิดทางให้เกิด DeFi, NFT และ Web3 Vitalik โดดเด่นทั้งด้านเทคนิคและจริยธรรม โดยเชื่อว่าบล็อกเชนคือเครื่องมือสร้างความโปร่งใส ไม่ใช่เพียงการทำให้ใครรวยขึ้น เรื่องราวของเขาจึงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เทรดและนักลงทุนมองไกล เข้าใจระบบ และให้คุณค่ากับความรู้มากกว่าผลลัพธ์ระยะสั้น.

วัยรุ่นใจเด็ด! กู้เงินเรียน All-in คริปโต พลิกหมื่นเดียวเป็นสิบล้านในไม่กี่ปี
เรื่องราวของ KidElitetrader ถ่ายทอดการตัดสินใจครั้งสำคัญเมื่อเขาใช้เงินกู้นักศึกษา 20,000 ดอลลาร์ซื้อ Bitcoin จำนวน 85 เหรียญในยุคที่คนมองว่าเป็นเงินปลอม แต่สุดท้ายกลับสร้างมูลค่าหลายสิบล้านบาทในวันนี้ อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าความเสี่ยงแบบนั้นใช้ไม่ได้กับตลาดปัจจุบัน เพราะ Bitcoin ถูกควบคุมมากขึ้นและมีแรงทุนมหาศาลที่ทำให้ความผันผวนรุนแรงกว่าเดิม เขาแนะนำว่า หากเชื่อใน Bitcoin ควรลงทุนด้วยเงินของตัวเองเท่านั้น ไม่ควรกู้เงินมาซื้อ บทเรียนนี้ไม่ใช่เรื่องของความกล้า แต่คือ “ความรับผิดชอบทางการเงิน” และการลงทุนอย่างมีวินัยเพื่อสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืน.

รู้แต่ยังทำ! พฤติกรรมอันตรายที่พาคนส่วนใหญ่ขาดทุนในตลาดคริปโต
หลายคนเริ่มเทรดคริปโตเพราะเห็นคนอื่นรวย แต่สุดท้ายพอร์ตพังเพราะแพ้ใจตัวเอง ตลาดคริปโตไม่ใช่เกมโชค แต่เป็นสนามสอบวินัยและอารมณ์ 3 พฤติกรรมหลักที่ทำให้ขาดทุนคือ ซื้อบนยอดดอยเพราะ FOMO, ถัวเพิ่มโดยไม่มีกลยุทธ์ และขายขาดทุนตอนไม่ไหว การอยู่รอดในตลาดขึ้นอยู่กับการมีแผนชัดเจนและควบคุมตัวเองให้ได้

