简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
จับตาผลประชุม กนง. ลุ้นข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ
บทคัดย่อ:สัปดาห์นี้ตลาดการเงินจับตา กนง. อาจลดดอกเบี้ย, ข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ และผลประกอบการหุ้นเทคฯ ใหญ่สหรัฐฯ เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าในกรอบ 33.05–33.80 บาทต่อดอลลาร์ ตลาดโลกผันผวนตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป ลุ้นการลดดอกเบี้ย เศรษฐกิจไทยยังเผชิญแรงกดดัน แต่การเปิดรับความเสี่ยงในตลาดโลกอาจช่วยหนุนการลงทุนระยะสั้

เข้าสู่สัปดาห์สำคัญที่เหล่านักลงทุนไม่ควรพลาด การเคลื่อนไหวของตลาดกำลังพึ่งพาปัจจัยทั้งในและนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินไทย (กนง.) รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ และผลประกอบการของหุ้นเทคฯ รายใหญ่ฝั่งสหรัฐฯ ที่พร้อมส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วตลาด
สรุปภาพรวมตลาดช่วงที่ผ่านมา
เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลง จากแรงหนุนของการรีบาวด์ในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้อานิสงส์จากภาวะเปิดรับความเสี่ยงในตลาดการเงินโลก ขณะเดียวกัน ราคาทองคำที่เพิ่งทำจุดสูงสุดใหม่ก็ถูกเทขายอย่างหนักในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
ปัจจัยที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้
- ผลการประชุม กนง.: ตลาดคาดการณ์ว่ากนง. อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps เหลือ 1.75% เพื่อประคองเศรษฐกิจในช่วงที่ภาคการผลิตยังอ่อนแอ
- ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ: รายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) อัตราการว่างงาน และยอดตำแหน่งงานเปิดรับ จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- ผลประกอบการหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ: กลุ่ม The Magnificent 7 และหุ้นธีม AI/Semiconductor จะเป็นตัวชี้วัดอารมณ์ตลาดการเงินในสัปดาห์นี้
- การประชุม BOJ และข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่น: แม้ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะมีแนวโน้มคงดอกเบี้ย แต่ตลาดยังต้องจับตาท่าทีเกี่ยวกับแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต
แนวโน้มค่าเงินบาท
เงินบาท (USD/THB) มีโอกาสอ่อนค่าลงในกรอบ “Sideways Up” ระหว่าง 33.05–33.80 บาทต่อดอลลาร์ จากปัจจัยแรงขายเงินบาทเพื่อนำไปจ่ายเงินปันผลให้นักลงทุนต่างชาติที่คาดว่ามีมูลค่าสูงถึง 5-6 พันล้านบาท ขณะเดียวกันการพักฐานของราคาทองคำก็อาจเพิ่มแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทได้เพิ่มเติม หากเงินบาทอ่อนค่าทะลุระดับ 33.85 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มระยะสั้นจะกลับเข้าสู่ขาลงอีกครั้ง โดยมีแนวรับสำคัญที่ 33.30-33.40 บาท และแนวรับถัดไปที่ 33.00-33.10 บาท
มุมมองเศรษฐกิจโลก
- สหรัฐฯ: ตลาดรอประเมินภาพรวมเศรษฐกิจผ่านตัวเลข Nonfarm Payrolls, อัตราว่างงาน, รายงาน GDP ไตรมาส 1 ปี 2025 และ ISM Manufacturing PMI เดือนเมษายน ขณะเดียวกัน ผลประกอบการหุ้นเทคฯ จะเป็นตัวเร่งสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของตลาด
- ยุโรป: ความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยของ ECB และ BOE จะขึ้นอยู่กับตัวเลข GDP ไตรมาส 1 และเงินเฟ้อ CPI เดือนเมษายน หากตัวเลขยังชะลอตัว มีโอกาสเห็นการปรับลดดอกเบี้ย 2-4 ครั้งในปีนี้
- ญี่ปุ่น: BOJ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% เพื่อรอดูความชัดเจนในนโยบายการค้าของสหรัฐฯ แม้แรงกดดันจากเงินเฟ้อในประเทศจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- จีน: ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือนเมษายนจะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางความกังวลเรื่องความขัดแย้งการค้ากับสหรัฐฯ
- ไทย: นอกจากผลการประชุม กนง. ต้องจับตารายงานยอดผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมีนาคม รวมถึงดัชนี PMI และความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนเมษายน เพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป
สรุปแนวโน้ม
- เงินบาท: มีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดยมีกรอบเคลื่อนไหวสำคัญที่ 33.05–33.80 บาทต่อดอลลาร์
- ตลาดโลก: ขึ้นอยู่กับทิศทางข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ และผลประกอบการหุ้นเทคฯ หากข้อมูลออกมาแย่กว่าคาด ตลาดอาจกลับมาเข้าสู่โหมด “หลบภัย” อีกครั้ง
- ตลาดไทย: แม้เศรษฐกิจมีแรงกดดัน แต่บรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงในตลาดโลก อาจยังหนุนให้มีเม็ดเงินไหลเข้าลงทุนในสินทรัพย์ไทยในบางจังหว
ขอบคุณข้อมูลจจาก Investing Thailand
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
VT Markets
D prime
GTCFX
STARTRADER
HFM
Vantage
VT Markets
D prime
GTCFX
STARTRADER
HFM
Vantage
WikiFX โบรกเกอร์
VT Markets
D prime
GTCFX
STARTRADER
HFM
Vantage
VT Markets
D prime
GTCFX
STARTRADER
HFM
Vantage
