简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
สืบนครบาลรวบ บัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอกว่ามีส่งของผิดกฎหมายตกค้าง
บทคัดย่อ:สืบนครบาลรวบบัญชีม้า

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 18.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 สืบนครบาล จับกุมตัว น.ส.มณีรัตน์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหามีหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 703/2567 ลงวันที่ 6 กันยายน 2567 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน มิได้กระทำต่อประชาชน แต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” จับกุม
บริเวณหน้าอพาร์ทเม้นท์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
.
พฤติการณ์การกระทำความผิด ได้มีผู้เสียหายเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนแจ้งว่า ขณะอยู่บ้านพักอาศัย ได้มีหมายเลขโทรศัพท์โทรเข้ามาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่ง DHL โดยโทรแจ้งกับผู้เสียหายว่ามีพัสดุ โดนตีกลับมา ประเทศจีน อ้างชื่อผู้แจ้ง และแนะนำตัวชื่อ น.ส.จิราภร สมหวัง เป็นสิ่งผิดกฎหมาย อยู่ในพัสดุบอกว่าไม่เคยส่ง แต่ถูกยืนยันว่า เบอร์โทรกับชื่อสกุลของผู้แจ้ง จึงได้ถามว่าสิ่งของผิดกฎหมายอะไร เจ้าหน้าที่บอกว่า มีหนังสือเดินทางปลอม จำนวน 10 เล่ม , ATM จำนวน 8 ใบ เสื้อผ้า 5 ชุด และนำให้แจ้งความ ที่ สภ.ภูเก็ต และโอนสายให้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเพิ่มไอดีไลน์ สภ.ภูเก็ต ขอรายละเอียดชื่อบัตรประชาชน ที่อยู่ แล้วบอกว่า ผู้แจ้งเกี่ยวกับฟอกเงิน มูลค่า 8 ล้าน โดยใช้บัตรประชาชน เปิดบัญชี ชื่อของผู้แจ้ง เปิดบัญชี ธ.กรุงไทย บอกว่าทำความผิด แอบฟอกเงิน กับนายสมศักดิ์ ภักดี และให้ โอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีของผู้แจ้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ปปง. ทำการตรวจสอบ ทุกบัญชี และให้โอนเงินไปที่ บัญชี ธนาคารกสิกรไทย ชื่อ มณีรัตน์ ทำรายการโอนเงินไปยังยัญชี ดังกล่าว จำนวน 4 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 จำนวนเงิน 143,058.78 บาท ครั้งที่ 2 จำนวนเงิน 55,000 บาท ครั้งที่ 3 จำนวนเงิน 55,000 บาท ครั้งที่ 4 จำนวนเงิน 24,000 บาท เวลา10.44 น. และผู้แจ้งจึงได้ใช้แอปฯ ธนาคารโอนไปยังบัญชีดังกล่าว จำนวนมากกว่า 2 แสนบาท หลังจากนั้นให้โอนเงินอีก แต่ผู้แจ้งไม่มีเงิน เชื่อว่าถูกหลอกลวง เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ จากนั้นจึงได้ทำบันทึกจับกุมและนำผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอฝากเตือนประชาชนว่า สถานการณ์ปัจจุบัน คนไทยมีสถิติการสั่งซื้อของออนไลน์มากขึ้นและใช้บริการขนส่งเอกชน มิจฉาชีพจึงได้อาศัยช่องโหว่นี้รวมตัวกันเป็นกลุ่มขึ้นมา ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการขนส่ง รวมถึงปลอมเป็นเจ้าหน้าที่รัฐต่าง ๆ ในการหลอกลวงเราว่ามีพัสดุตกค้าง ถูกตีกลับ และในกล่องพัสดุนั้นมีสิ่งของผิดกฎหมายบรรจุอยู่ สุดท้ายหลอกให้เราเสียค่าปรับ โดยโอนเงินไปยังบัญชีของมิจฉาชีพนี้ เมื่อรู้ตัวอีกทีก็สูญเงินไปหลายบาทแล้ว วิธีหยุดยั้งมิจฉาชีพ ให้คุณขอเบอร์ติดต่อกลับของมิจฉาชีพ หาเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงานราชการที่มิจฉาชีพอ้างถึง และสอบถามไปที่หน่วยงานนั้นๆ หากทำตามขั้นตอนแรก มิจฉาชีพอาจวางสายใส่ เพราะคิดว่าคุณรู้ทันกลลวง สุดท้ายหากท่านตกเป็นเหยื่อให้รีบโทรแจ้ง 1441
ขอบคุณข้อมูลจาก สืบนครบาล IDMB
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

จากเรืองรองสู่ร่วงโรย! แอน จักรพงษ์ ถูกออกหมายจับ หลังลือปั่น 6,000 ล้านเป็นคริปโตฯ หนีเม็กซิโก
บทความนี้สรุปวิกฤติที่เกิดกับแอน จักรพงษ์ ซึ่งจากเดิมเป็นผู้บริหารสื่อชื่อดัง กลับต้องเผชิญหมายจับ คดีฉ้อโกง 30 ล้านบาท ข้อกล่าวหางบการเงินเท็จ การผิดนัดชำระหุ้นกู้ และกระแสข่าวโยกเงินคริปโตกว่า 6,000 ล้านบาท วิกฤติเหล่านี้ทำให้บริษัท JKN ที่เคยรุ่งเรืองเข้าสู่ภาวะล่มสลายต่อเนื่อง พร้อมส่งผลกระทบรุนแรงต่อผู้ถือหุ้นกู้ พนักงาน และความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทย เหตุการณ์ครั้งนี้จึงเป็นบทเรียนสำคัญด้านธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลกิจการในตลาดทุนไทยยุคใหม่

จากความหวังสู่ความพัง เมื่อ “Copy Trader” กลายเป็นกับดักความโลภของนักเทรด
กระแส “Copy Trader” ที่อ้างว่าสามารถคัดลอกการเทรดของมืออาชีพเพื่อสร้างกำไรโดยไม่ต้องวิเคราะห์เอง กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนหน้าใหม่ แต่เหตุการณ์ล่าสุดในไทยที่มีผู้เสียหายกว่า 10 ล้านบาทจาก “โค้ชสอน Copy Trade” ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของกลยุทธ์นี้อย่างชัดเจน เพราะเบื้องหลังความง่าย อาจซ่อนความไม่โปร่งใสและการหลอกลวง นักลงทุนควรตรวจสอบใบอนุญาต ผลการเทรดย้อนหลัง และเงื่อนไขค่าบริการอย่างรอบคอบก่อนลงทุน สุดท้าย Copy Trade ไม่ใช่ทางลัดสู่ความรวย แต่เป็นเครื่องมือที่ต้องใช้ “ความรู้ ความระมัดระวัง และวินัย” เช่นเดียวกับการเทรดด้วยตัวเอง.

เจาะลึกคดี “โค้ชก๊อปปี้เทรด” พอร์ตแตก 10 ล้าน บทเรียนราคาแพงของนักลงทุนยุค TikTok
เกิดกรณีโค้ชสอนเทรดชักชวนนักลงทุนร่วมระบบ Copy Trade โดยอ้างกำไรวันละ 5% และความเสี่ยงต่ำ สุดท้ายพอร์ตแตก สูญเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท ขณะนี้ตำรวจไซเบอร์และสภาทนายความอยู่ระหว่างตรวจสอบ เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนให้นักลงทุนระวังคำโฆษณาที่การันตีกำไร เพราะไม่มีใครควบคุมตลาดได้จริง.

ฝันร้ายซ้ำซ้อน! หุ้นทิพย์ CST Securities – VELTRIX ทำนักลงทุนสูญเงินกว่า 27 ล้าน
เกิดกรณีหลอกลงทุน “หุ้นทิพย์” ในไทย โดยแก๊งมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อบริษัท CST Securities และ VELTRIX เพื่อชักชวนผู้คนผ่านไลน์และแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เปิดบัญชีลงทุน โดยแสดงผลกำไรปลอมเพื่อหลอกให้โอนเงินจริง ก่อนปิดกั้นการถอนเงิน ส่งผลให้ผู้เสียหายสูญเงินรวมกว่า 27 ล้านบาท เหตุการณ์นี้เป็น Hybrid Scam ที่ผสมผสานการหลอกหลายขั้นตอน ใช้ภาพลักษณ์ของบริษัทถูกกฎหมายสร้างความน่าเชื่อถือ เจ้าหน้าที่เตือนให้นักลงทุนตรวจสอบใบอนุญาตและชื่อโบรกเกอร์ให้ถูกต้อง ไม่โอนเงินเข้าบัญชีบุคคล และระมัดระวังต่อคำชักชวนผลตอบแทนสูงเกินจริง เพราะ “ไม่มีการลงทุนใดปราศจากความเสี่ยง”
WikiFX โบรกเกอร์
FXCM
Plus500
HFM
VT Markets
FXTM
IC Markets Global
FXCM
Plus500
HFM
VT Markets
FXTM
IC Markets Global
WikiFX โบรกเกอร์
FXCM
Plus500
HFM
VT Markets
FXTM
IC Markets Global
FXCM
Plus500
HFM
VT Markets
FXTM
IC Markets Global
