简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (18 พ.ค.) ที่ระดับ 34.28 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า และมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.10-34.35 บาท/ดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยเผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (18 พ.ค.) ที่ระดับ 34.28 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า และมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.10-34.35 บาท/ดอลลาร์ ค่าเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทได้ปรับตัวอ่อนค่าลงทะลุแนวต้านสำคัญที่เรามองไว้และอ่อนค่าต่อไปทดสอบ 34.35 บาทต่อดอลลาร์ ตามจังหวะการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ รวมถึงโฟลว์ซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว
เราคงมองว่า ในระยะสั้นค่าเงินบาทอาจยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากปัจจัยความไม่แน่นอนของการจัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งจะสะท้อนผ่านแรงขายสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ ดังจะเห็นได้ว่าแรงขายหุ้นและบอนด์ได้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ โมเมนตัมเงินดอลลาร์ที่เริ่มกลับมาเป็นฝั่งแข็งค่าขึ้นจากท่าทีของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด และความกังวลปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่คลี่คลายลงมีส่วนที่อาจกดดันเงินบาทได้ในระยะสั้น ขณะเดียวกัน เราคงมองว่าผู้เล่นในตลาดบางส่วนต่างรอทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว โดยเฉพาะในจังหวะที่ราคาทองคำได้ย่อตัวลงใกล้โซนแนวรับสำคัญ ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำดังกล่าวอาจกดดันเงินบาทได้
เรามองว่าบรรดาผู้เล่นในตลาด โดยเฉพาะผู้เล่นต่างชาติอาจยังคงมุมมองเดิมที่คาดว่า ในระยะกลางและระยะยาวเงินบาทยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้ ทำให้ผู้เล่นกลุ่มดังกล่าวอาจรอจังหวะที่เงินบาทอ่อนค่าลงในการเพิ่มสถานะ Long THB นอกจากนี้ บรรดาผู้ส่งออกอาจรอทยอยขายเงินดอลลาร์ได้เช่นกัน หลังเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลง ซึ่งอาจช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาทได้บ้าง ยกเว้นในกรณีที่ตลาดกลัวความวุ่นวายทางการเมืองของไทย หากการจัดตั้งรัฐบาลผสมล่าสุดล้มเหลว อาจเห็นฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติไหลออกมากขึ้น กดดันให้เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อไปทดสอบโซนแนวต้านถัดไปแถว 34.50 บาทต่อดอลลาร์ได้เช่นกัน
ด้านความหวังการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่มีความคืบหน้ามากขึ้น ได้หนุนให้ผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างกล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น (Risk-On) นอกจากนี้ ความกังวลปัญหาสภาพคล่องของบรรดาธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางที่เริ่มคลี่คลายลงยังได้ช่วยหนุนให้บรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมดีขึ้น
อย่างไรก็ดี ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์โดยรวมเคลื่อนไหว sideways โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) แกว่งตัวใกล้ระดับ 102.9 จุด โดยในบางช่วงดัชนีเงินดอลลาร์มีจังหวะแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวต้าน 103 จุด ก่อนที่จะย่อตัวลงเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไรหลังบรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมกลับมาเปิดรับความเสี่ยง ส่วนในฝั่งราคาทองคำ การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยิลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ท่ามกลางบรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาด รวมถึงจังหวะการแข็งค่าขึ้นบ้างของเงินดอลลาร์ ได้กดดันให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย.) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 1,985 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเราคาดว่าการปรับฐานของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาอาจหนุนให้ผู้เล่นบางส่วนทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวมีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้
สำหรับวันนี้ ในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกและต่อเนื่อง (Initial and Continuing Jobless Claims) หลังจากข้อมูลในสัปดาห์ก่อนหน้านั้นออกมาแย่กว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ นอกจากนี้ ความคืบหน้าของการเจรจาขยายเพดานหนี้ รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดจะเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินได้ในระยะสั้นนี้
ส่วนในฝั่งไทย เรายังคงเฝ้าติดตามการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเราคงมุมมองเดิมว่า ความไม่แน่นอนของการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินไทยในระยะสั้นนี้ได้ สะท้อนผ่านแรงขายสินทรัพย์ไทยโดยนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มสูงขึ้นชัดเจน หลังผู้เล่นในตลาดได้ทยอยรับรู้ผลการเลือกตั้ง
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ

การรู้ว่า ตลาด Forex ปิดกี่โมง ไม่ใช่แค่ข้อมูลพื้นฐาน แต่คือปัจจัยสำคัญที่กำหนดจังหวะและโอกาสในการเทรด บทความนี้อธิบายเวลาเปิด-ปิดของ 4 ตลาดหลักทั่วโลก ได้แก่ ซิดนีย์ โตเกียว ลอนดอน และนิวยอร์ก พร้อมชี้ว่าช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กซ้อนกันคือช่วงที่ความผันผวนสูงสุด เหมาะกับการเทรดคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD การเข้าใจช่วงเวลาตลาดช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์ได้แม่นยำ ลดความเสี่ยง และใช้จังหวะตลาดให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดไทยที่ต้องปรับเวลาเทรดให้เหมาะกับสภาพตลาดโลก

หลังการประชุม FOMC วันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุว่ายังไม่สามารถสรุปทิศทางดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมได้ แม้เฟดมีมติลดดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 3.75–4.00% ก็ตาม การลงมติที่ไม่เป็นเอกฉันท์สะท้อนความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแรงลง ส่วนการลงทุนในเทคโนโลยี AI ยังคงแข็งแกร่ง พาวเวลชี้ว่า หากไม่รวมผลกระทบจากภาษี เงินเฟ้อสหรัฐฯ แทบไม่ห่างจากเป้าหมาย 2% ทำให้การตัดสินใจเดือนธันวาคมนี้อาจเป็นจุดชี้ชะตาทิศทางเศรษฐกิจโลกช่วงปลายปี.

บทความนี้กล่าวถึงแนวคิดของ “Copy Trade” หรือการคัดลอกการเทรดจากเทรดเดอร์มืออาชีพ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในตลาด Forex เนื่องจากช่วยให้นักลงทุนมือใหม่สามารถเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องมีประสบการณ์มากนัก พร้อมทั้งเปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดกับการ “เทรดด้วยตนเอง” ที่ให้ความอิสระและโอกาสในการพัฒนาทักษะระยะยาว สรุปได้ว่าการเลือกวิธีการเทรดที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับเป้าหมาย เวลา และระดับความเข้าใจของนักลงทุนแต่ละคน โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้และบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

รีวิวโบรกเกอร์
JustMarkets
XM
GTCFX
ATFX
FXCM
D prime
JustMarkets
XM
GTCFX
ATFX
FXCM
D prime
JustMarkets
XM
GTCFX
ATFX
FXCM
D prime
JustMarkets
XM
GTCFX
ATFX
FXCM
D prime