简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ราคาทองคําได้รับแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์
บทคัดย่อ:ราคาทองคําได้รับแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์


ตอนนี้เรามีแอพพลิเคชั่น อย่าลืมโหลดแอพจะได้ไม่พลาดข่าวสารวงการForex https://www.wikifx.com/th/download.html

สรุปราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปีตปรับตัวสติลง 11.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําได้รับแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 108.22 ขาน รับถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายที่ออกมาระบุตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าพวกเขาสนับสนุนให้เฟตเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้ ตลาดยังคงประเมินว่ามีโอกาสราว 50% ที่เฟตจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps ในการประชุมเดือนก.ย. นอกจากนี้ ราคาทองคํายังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ที่พุ่งขึ้นทั่วโลก ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวขึ้น 5.3% ในเดือน n.ศเมื่อเทียบรายเดือน และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูล สถานการณ์ดังกล่าวผลักดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมันอายุ 10 ปีให้พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใน รอบ 4 สัปดาห์ พร้อมกับหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้พุ่งขึ้นตาม จนแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.บริเวณ 2.998% ปัจจัยดังกล่าวกตตันทองคําใน ฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยอย่างหนัก จนเป็นเหตุให้ทองคําร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์บริเวณ 1,744.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต้าน กองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่ม +3.18 ตันโดยถือเป็นการถือครองทองคําเพิ่มเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายเดือนก.ค. สำหรับวันนี้ไม่มีกําหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
ราคาทองคำเกิดแรงขายจนราคาอ่อนตัวลง แม้ว่าจะมีแรงซื้อให้ดีดตัวขึ้นมาได้บ้าง แต่หากมีแรงซื้อไม่ มากพอ ราคามีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับโซน 1,736-1,729 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ระยะสั้น ประเมินแนวต้านโซนใกล้ 1,759-1,772 ดอลลาร์หากไม่สามารถผ่านไปได้ อาจเกิดแรงขายกดดันให้ ราคาอ่อนตัวลงอีกครั้ง
คำแนะนําเปิดสถานะขาย $1,759-1,772
จุดทำกําไร ซื้อคืนเพื่อทำกําไร $1,736-1,729
ตัดขาดทุนตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,772
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

ฟอเร็กซ์ vs หุ้น ความเสี่ยงตัวไหนแรงกว่า? เจาะลึกด้วยหลัก Money Management
บทความนี้อธิบายความเสี่ยงของการลงทุนในตลาด Forex และตลาดหุ้น โดยชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงไม่ได้เกิดจากตัวตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการใช้ Leverage การบริหารเงิน และวินัยของเทรดเดอร์เป็นหลัก Forex ถูกจัดว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากความผันผวนรวดเร็วและ Leverage สูง ขณะที่หุ้นมีความผันผวนต่ำกว่าและควบคุมความเสี่ยงได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม หากมีระบบ Money Management ที่ดี Forex ก็สามารถลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสได้เช่นกัน สรุปคือ การเลือกตลาดควรพิจารณาจากสไตล์และวินัยของผู้ลงทุนมากกว่าตัวตลาดเอง.

เช็กปฏิทินข่าวสำคัญประจําสัปดาห์! มีเหตุการณ์อะไรน่าติดตามบ้าง
ปฏิทินข่าว Forex และเหตุการณ์สำคัญประจําสัปดาห์

อยากเทรดให้เก่ง? เริ่มจากสร้าง “ระบบเทรด” ที่พิสูจน์แล้วว่าทำงานจริง
การเทรด Forex ต้องอาศัยความรู้และระบบการเรียนรู้ที่มีแบบแผน ไม่ใช่เพียงการกดออเดอร์หรือหวังพึ่งโชค การศึกษาการเทรดอย่างเป็นระบบ—ทั้งกลยุทธ์ การบริหารเงินทุน ความเสี่ยง และจิตวิทยา—ช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจอย่างมีวินัย ลดอารมณ์ และเข้าใจตลาดได้ลึกขึ้น การฝึกด้วยบัญชีทดลอง การตั้งเป้าหมาย การทบทวนผลการเทรด และการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญล้วนเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยสร้างพื้นฐานสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ ความสำเร็จในตลาด Forex เกิดจากการฝึกฝนต่อเนื่องและวินัย ไม่ใช่ความรวดเร็วหรือการเสี่ยงโดยไร้แผน.

Psychology of Trading จุดอ่อนทางอารมณ์ที่ทำให้เทรดเดอร์พลาดในทุกจังหวะตลาด
บทความนี้อธิบายความแตกต่างระหว่าง ตลาดกระทิง และ ตลาดหมี พร้อมชี้ให้เห็นว่าแก่นสำคัญของการอยู่รอดในตลาด Forex ไม่ใช่ทิศทางของราคา แต่คือ จิตวิทยาและวินัยของเทรดเดอร์ ตลาดกระทิงมักสร้างความมั่นใจและความโลภ ขณะที่ตลาดหมีทำให้เกิดความกลัวและการขายแบบตื่นตระหนก ความผิดพลาดส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมมนุษย์ ไม่ใช่สภาพตลาด เทคนิคสำคัญเพื่ออยู่รอดคือ การอ่านแนวโน้มหลัก ตั้งกฎการเทรดที่ชัดเจน ใช้ Stop Loss อย่างมีวินัย และควบคุมอารมณ์ให้มั่นคง บทความสรุปว่า การเข้าใจทั้งตลาดและเข้าใจตัวเองคือกุญแจสู่การเติบโตของพอร์ตอย่างยั่งยืน
