ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในสินทรัพย์ปลอดภัย

โดย Peter Nurse

Investing.com -- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในการซื้อขายช่วงต้นของตลาดยุโรปวันนี้ โดยซื้อขายใกล้กับระดับสูงสุดในรอบปีสำหรับอุปสงค์สินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากธนาคารกลางเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่จะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ

ในเวลา 03:00 น. ET (07.00 GMT) ดัชนีดอลลาร์ ที่ติดตามดอลลาร์เทียบกับกลุ่มของสกุลเงินอื่น ๆ อีก 6 สกุล ซื้อขายสูงขึ้น 0.2% เป็น 104.688 หลังจากไต่ระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีที่ 105.79 ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อวันพฤหัสบดีหลังจาก ดัชนีการใช้จ่ายผู้บริโภคแท้จริง ของสหรัฐฯ เติบโตน้อยกว่าที่คาดในเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้ผลตอบแทนมาตรฐานพันธบัตร อายุ 10 ปี ลดลงต่ำสุดที่ 2.94% ถือเป็นการลดลงรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเจ็ดสัปดาห์

โดยความเห็นจาก เจอโรมพาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางที่ได้กล่าวไว้เมื่อต้นสัปดาห์ว่าการฟื้นฟูเสถียรภาพด้านราคาผู้บริโภคมีความสำคัญกว่าความกังวลว่าเศรษฐกิจจะเสียหายจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์เด้งกลับอย่างรวดเร็วโดยนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ที่อ่อนไหวต่อการเติบโตเนื่องจากมีความกังวลว่าการชะลอตัวใด ๆ ในสหรัฐอเมริกาจะลากเศรษฐกิจโลกให้ย่ำแย่ไปด้วยกัน

นักวิเคราะห์จาก ING กล่าวว่า “ค่าเงินดอลลาร์ยังคงใกล้เคียงกับระดับสูงสุดของปี เนื่องจากธนาคารกลางยังคงยืนหยัดจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อมากกว่าความกังวลว่าอาจจะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้”

EUR/USD ลดลง 0.3% เป็น 1.0453 โดยสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงทำให้เกิดความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและตัวเลขการเติบโตในยุโรป

ขณะนี้ เศรษฐกิจยุโรปกำลังเผชิญกับปัญหาใหม่ด้านการส่ง ก๊าซธรรมชาติ ของรัสเซียที่การขนส่งเป็นไปอย่างเชื่องช้า ซึ่งจะเป็นการผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อไต่ขึ้นสูงกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปัจจุบัน และผลักดันให้เยอรมนีที่เป็นมหาอำนาจในทวีปยุโรป “ใกล้จะเข้า” สู่ภาวะถดถอย ธนาคารดอยซ์แบงก์ กล่าว

นักลงทุนจับตามองข้อมูลราคาผู้บริโภคยูโรโซนที่จะเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ โดยคาดว่าตัวเลข CPI ประจำปีจะเพิ่มขึ้นเป็น 8.4% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นสถิติใหม่หลังจากแตะระดับ 8.1% ในเดือนก่อนหน้า

นอกจากนี้ ข้อมูล PMI ภาคการผลิต สำหรับยูโรโซน และ เยอรมันนี ก็ครบกำหนดส่งมอบในวันศุกร์นี้เช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะแสดงตัวเลขความเชื่อมั่นที่แย่ลงในภาคส่วนสำคัญนี้

GBP/USD ลดลง 0.4% เป็น 1.2131 โดยแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ได้ตั้งข้อสังเกตเมื่อต้นสัปดาห์ว่า เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรเริ่มชะลอตัวในขณะที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นต่อไป

ผู้บริหารธุรกิจในสหราชอาณาจักรได้แสดงทัศนคติต่อเศรษฐกิจว่ามีแนวโน้มที่มืดมนที่สุดนับตั้งแต่วันแรกของการระบาดใหญ่ จากการสำรวจผู้นำมากกว่า 400 คนของ The Institute of Directors พบว่า ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจลดลงเหลือ -60 ในเดือนมิถุนายน ลดลงจาก -45 ในเดือนเมษายน และต่ำที่สุดนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าโจมตีสหราชอาณาจักรครั้งแรกในช่วงต้นปี 2020

USD/JPY ลดลง 0.6% เป็น 134.97 โดยเงินเยนของญี่ปุ่นยังได้รับแรงหนุนในในฐานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ค่าเงินที่ความอ่อนไหวต่อความเสี่ยง AUD/USD ลดลง 1.1% เป็น 0.6821 ในขณะที่ USD/CNY เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 6.7078 หลังจากกิจกรรมการผลิตของจีนขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 13 เดือนในเดือนมิถุนายน โดย ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนจากสถาบัน Caixin เพิ่มขึ้นเป็น 51.7 ในเดือนมิถุนายน โซึ่งได้รับแรงหนุนจากการยกเลิกการล็อกดาวน์